QuasarARM การกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง #5

วันนี้พอมีเวลา ก็ทำการทดลองการ upload  Firmware โดย Download มาจาก https://fandy.ucoz.org/publ/metalloiskatel_quot_kvazar_quot_quot_quasar_quot/metalloiskatel_quot_quasar_arm_quot/2-1-0-5  โดยใช้ Download Firmware รุ่น 2.6.3M ส่วนอุปกรณ์การอัพโหลด ได้ซื้อ FT232 USB to TTL UART มาไว้นานแล้ว และใช้ซอฟต์แวร์ upload ของ STMicroelectronics คือ STM32 Flash loader demonstrator (FLASHER-STM32) https://www.st.com/en/development-tools/flasher-stm32.html ความเข้าใจเดิมคือต้องupload ผ่าน ST-Link V2 ผ่านทาง Single wire interface module (SWIM) ผ่านทางขา NRST SWDCLK SWDIO GND VCC แต่ดูตัวอย่างจากเว็บ youtube ที่มีคนอัพโหลดเฟิร์มแวร์ที่ QuasarARM อุปกรณ์ที่สำเร็จมาแล้ว ก็ผ่าน TTL UART ในการ Upload ครั้งนี้ ใช้
  • ไฟ VCC 3.3V ของ UART บัดกรีขั้วมาลงบอร์ด
  •  GND จาก  UART กับ GND ของ board
  • เชื่อม TX ฝั่ง UART  เข้ากับ RX ของ board
  •  RX ฝั่ง UART เข้ากับ TX ของ board
จากนั้นเสียบ USB TTL เข้ากับคอม  Device Manager แสดง COM5 มาวัดไฟเข้าก็ 3.3V โอเค พร้อม โปรแกรม STM32 Flash loader demonstrator  ระบบแสดง COM5 อัตโนมัติ ปรับ speed จาก 115200 เป็น 9600 เอาแบบช้าแต่ชัวร์ 🙂 กด Next ถ้าระบบเชื่อมกัน จะผ่านไปเมนูถัดไป พอกดปุ่ม โปรแกรมค้างทันที แล้วขึ้น ข้อความ No response from the target,the Boot loader can not be started. Please, verify the boot mode configuration and the flash protection status, Reset your device then try again… ข้อความนี้เห็นมาเยอะมากแล้วใน board เดิม แสดงว่า อุปกรณ์ไม่เชื่อมกัน cpu ไม่ทำงาน ไม่ได้ตั้ง boot mode  แต่นี่เป็น board ใหม่ มีคนทำสำเร็จ YouTube แสดงว่า ต้องมีอะไรผิดพลาด ต้องตรวจสอบอีกครั้ง พบว่า ไม่ได้ต่อไฟ 3.3V อีกจุด จาก IC LP2985-33 เนื่องจาก สั่งของแล้วยังไม่มา จึงต่อสายไฟ เชื่อม 3.3V มาเข้าอีกจุด คราวนี้ลองย้อนการทำงานใหม่ พอกด Next จอก็ขึ้น ยูเรก้า ผ่านแล้ว เท่าที่ดูใน youtube มาจุดนี้นี่สำเร็จไปค่อนนึงแล้ว กด Next จากนั้นกด Next ใส่ชื่อไฟล์ ที่upload ลงไป ผมใช้ QuasarARM_261M.hex จากนั้นกด Next ขั้นตอน load ไปเรื่อยๆ จน upload เสร็จ ยูเรกา อีกครั้ง  

QuasarARM การกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง #4

วันนี้ทำการตรวจสอบ PCB แผ่นแรก หลังการบัดกรี STM32F100 ว่าต้องปรับแก้หรือไม่  โดยตรวจสอบขาต่างๆว่ามีการ เชื่อมติดกับ PCB  ไหม ตะกั่วช๊อตขาระหว่างกันหรือเปล่า ทำการแก้ไข ดูดตะกั่ว ออกใช้ทองแดงซับตะกั่วออก จนดูว่า น่าจะไปรอดแล้ว ทำการ วัดขา VCC กับ GND ว่ามีการช็อตกันไหม พอพบว่า OK ก็เริ่มเอาอุปกรณ์ใส่ โดย ความตั้งใจแรก คือการเชื่อมระบบ เบื้องต้นให้ทำงาน คือ  ต่อ Capacitor 15pf 2 ตัว กับ Crystal oscillator 8 เมกะเฮิรตซ์ ให้วงจร ผลิตความถี่  Resistor 390 โอห์มเข้าที่ ขา OSC_IN OSC_OUT Capacitor 100 nf  muj NRST ,VDD1,2,3 และจุดต่างๆ ที่คาดวา STM32 ต้องใช้ ต่อ R 1K 100K เข้า ฺBoot0 ต่อ R 100 โอห์ม ที่ขา RS_TX RS_RX ต่อจุดต่อต่างๆ หลังการบัดกรี วัดวงจรดูแล้วไม่ ช๊อตกัน ทดลองต่อสาย จ่ายไฟ 3.3V จาก Power Supply แล้ว Power ไม่ตัดแสดงว่าไม่ ช๊อตกัน ต่ออุปกรณ์ LED เชื่อมเพื่อแสดงผลการทำงาน เสร็จแล้ว ค่อยหาเวลาทำต่อ

QuasarARM การกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง #3

บอร์ด PCB และอุปกรณ์บางส่วนมาแล้ว น่าจะลองเริ่มทำเล่นๆ ได้ แต่ก็รอจน ชุด Capacitor และ Resistor มาถึงได้วันสองวัน แกะดูบอร์ด QuasarARM PCB ปรากฎว่า น่าผิดหวัง คือในเวปบอกว่า เป็น PCB รุ่น 0.6 แต่อันนี้ไม่ระบุรุ่น น่าจะเป็น รุ่น 0.5C ความแตกต่างของรุ่น 0.5 กับ 0.6 อยู่ที่ QuasarARM 0.6 – เพิ่ม IC CP2102 ทำให้ Quasar สามารถ UP Firmware ผ่าน USB ได้
  • เปลี่ยน LD1117 ที่เลี้ยง LCD เป็น LD1117S50
  • เปลี่ยน  LD1117V33 ตัวแรกที่เลี้ยง CPU เป็น LD1117S33 และ LD1117V33 เป็น  LP2985-33 ดูว่า เพื่อความเสถียรภาพทางไฟฟ้าและป้องกันการกวนของคลื่นต่อง CPU
  • เปลี่ยน MCP6022 เป็น LT6203 อันนี้แก้ noise โดยตรง
  • มีวงจรวิทยุ FM IC KT0803L
  • เปลี่ยน LM321 (ผมซื้อมาแล้ว) เป็น BC846 ร่วมกับ 2N7002
  • เปลี่ยน Jack Stereo จาก SJ1-3515 เป็น PJ-327A
ผมได้สั่งซื้ออุปกรณ์บางส่วนอ้างอิง Partlist 0.5 ไป พอมาดูจึงทยอยสั่งอุปกรณ์ของ 0.6 ไป เริ่มต้นการบัดกรี  STM32F100 โดย STM32F100C8 ชุดนี้ เหลือมาจากการซื้อเมื่อปี 2558  ลง PCB  ความยากของที่ต้องเจอที่ขาเล็กมากกกกกก ผมอายุ 40 กว่าปีแล้วสายตาไม่ใช่คนหนุ่มดังนั้น ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ใช้แว่นตาขนาดสายตายาว 110 ทำให้สามารถเห็นชัดเจนขึ้น และอุปกรณ์ช่วยดู ที่เคยซื้อมา นานแล้ว จริงๆแล้วซื้อแว่นช่วยดู มา แต่ปรากฏว่าใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ห่วยมาก ใช้หัวแร้งที่ติดมากับเครื่องเป่าลมร้อน พยายามใจเย็นๆ เหนื่อย ล้าก็หยุด ไม่ดันทุรังต่อ สามารถทำไปได้  3 แผ่น น่าจะรอด 1 แผ่น อีกสองแผ่น ดูแย่หน่อย อาจโดนเป่าออก เพื่อลดความเสียง สั่ง STM32F100C8 มาเก็บไว้ก่อน ของเดิมเหลืออีก 4 สั่งมาอีก  10 ตัว จาก Aliexpress ตัวละ 0.754 us ประมาณ 24 บาทเศษ (1 us 32 บาท)  ถ้ามีเวลาจะลองใส่อุปกรณ์เพิ่มเติม ดูก่อนเพื่อทดสอบ  

QuasarARM การกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง #2

สวัสดี ผมทำโปรเจคนี้เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา สั่ง PCB  QuasarARM วงจรรุ่นใหม่ เวอร์ชั่น 0.6 จาก PCBWay เจ้าเก่า ซึ่งมีแผ่นรุ่นนี้ขาย รออยู่ 1 เดือนจะได้ของ Capacitor  Resistor Transistor IC ส่วนใหญ่ขนาด 0805 สามารถสั่งทาง Aliexpress ในราคาไม่แพงนัก ถ้าถูก จะรอนานหน่อย ประมาณ 2-3 สัปดาห์ บางอันเป็นเดือน รอได้ไม่รีบ รอมานานหลายปีแว้วววว ชิ้นส่วน บางส่วนได้มากจากของเดิม ที่ซื้อไว้  ตัวผมเองในขณะนี้ น่าจะมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ไม่ต้องมั่ว เหมือนแต่ก่อน  อุปกรณ์ SMD มีความเข้าใจ เรื่องขนาดที่มีมากมาย ทั้ง  0603 1210 1206 0805  เยอะแยะไปหมด  ความรู้อันนี้นำไปสู่การซื้ออุปกรณ์ที่ถูกต้อง และมีส่วนให้ประกอบแล้ว ทำงานได้ตามมา รวมทั้ง มีคลิป youtube และหลายแหล่ง หลากภาษา มาประกอบความเข้าใจ ทั้งการจัดการเรื่อง upload firmware และจัดการอุปกรณ์ วันนี้พอมีเวลส ลองเอาบอร์ดเดิมกลับมาดูอีกครั้ง ลองแก้ไข บัดกรี วัดวงจร พบว่า ช็อต พยายามแก้ไขแล้วปรากฏว่ามัน ไม่ทำงาน  จึงลองถอดอุปกรณ์บางส่วนย้ายไปยัง PCB เดิม ที่มี STM32 อยู่แล้ว ก็ไม่รอด ดูแล้วยิ่งทำ ยิ่งทำให้ลดทอนกำลังใจ  ดังนั้นผมจึงทิ้งไม่ไปต่อกับบอร์ดเดิม รออุปกรณ์ชุดใหม่ดีกว่า  

QuasarARM การกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง #1

ปี 2558 ภาคใต้เกิดปัญหาสามจังหวัด มีระเบิดหลายจุด  เลยมีความ มีความสนใจทดลองทำเครื่องตรวจโลหะ เพื่อค้นหาวัตถุระเบิดที่ฝังดินอยู่ ประกอบกับ ทองแพง โชคดีอาจมีคุณสมบัติตรวจหาทองได้ด้วย เลยคุยโวโอ้อวดโม้ไว้กับพี่ชายและภรรเมียไว้  โดยเฉพาะเมีย บอกว่าจะทำเครื่องหาทอง เพื่อจะได้ไม่ขัดขวางโครงการ ประมาณ เมษา 58 เริ่มค้นหาข้อมูล Google เครื่องตรวจจับโลหะ ก็มีหลายแบบมาก ส่วนใหญ่จะ บอกเป็นนัยๆ แล้วก็ขายของ หรือ วงจรระบบ มีแต่โบราณมากๆ หาไปก็ลงตัวที่แบบของรัสเซีย ชื่อว่า Quasar ซึ่งพัฒนามาหลายรุ่น จนพบว่า รุ่นหนึ่งชื่อว่า QuasarARM เริ่มพัฒนามาตั้งแต่มี 2556 (2013) ล่าสุดในตอนนั้น หัวใจเป็น Arm Cortex-M3 Microcontrollers ของ STMicroelectronics ชื่อ STM32F100 ดูแล้วไม่โบราณ แบบ อนาลอค แน่นอนว่า การอัพเดทอะไร ด้วย Firmware ทันสมัยไม่หยอก ด้วยความบ้าบิ่น ไฟแรง และเมื่อได้วงจรมาแล้ว ก็ทำการแกะข้อมูล แปลภาษารัสเซีย ซึ่งยากมาก Google Translate ช่วยได้เล็กน้อย แปลแล้ว งงในงง ในส่วนศัพท์ทางอิเล็กทรอนิกส์ของรัสเซียกับบ้านเราต่างกัน บ้านเรา มาตรฐานสากล นี่ งงมากๆ  เช่น Capacitor เขียน 15  เฉยๆ คือ 15pf   4700 คือ 4.7nf  0,033 คือ 33nf  0,1 คือ 100nf  1,0 คือ 1 uf  ไม่เข้าใจจนต้อง e-mail ไปถามคุณ fandy เจ้าของ Quasar ซึ่งเค้าดูแปลกใจ เล็กน้อย และดูจะไม่อยากตอบเท่าไหร่ เข้าใจว่า เหมือนโปรขั้นเทพ คุยกับเด็กพึ่งหัด พอได้รายละเอียดซึ่งผมคิดว่าสมบูรณ์แล้ว (จริงๆ คือไม่สมบูรณ์เลย ยังมั่วอยู่มาก ) ก็เริ่มซื้ออุปกรณ์ STM32 Capacitor ,Resistor  ทั้งการซื้อจากตัวต้วแทนในไทย บ้านหม้อ โชคชัย Electronics Source ฯลฯ  ส่วนใหญ่จะของที่ต้องการจะไม่มี มีก็แพง เลยค้นหาจาก Online จาก Mouser Electronics ,RS-Online ,Digikey Online มีของที่ต้องการ แต่แพงและ ในช่วงหลัง มาพบ WT ออนไลน์ ในไทย พบว่าของไม่แพง หาอุปกรณ์เสริมจาก Aliexpress,Alibaba ได้ ST-Link V2  ตะกั่วเหลว ,ทองแดงซับตะกั่ว , หัวทิปหัวแร้ง ,ที่จับ SMD (ได้มาแต่ไม่สมบูรณ์ ปัจจุบันใช้ปากคีบ) ชิ้นส่วน ได้ LCD Blue  16×2 5V เอามา 5 ตัว STM32F100 4 ตัว ตัวละ 0.9US 67 บาท ค่าเงิน 1 us =35.6 บาท (2015-2558)  ซึ่ง STM ชุดนี้ได้เอามาใช้ใน ชุดปัจจุบันที่ทำงานได้ด้วย น่าแปลกใจว่า ทำไมในขณะนั้นผมไม่ได้ซื้อชิ้นส่วนประกอบ ทั้ง R C ทาง Aliexpress เลย ในส่วน PCB ประกอบ เป็นวงจร พบว่า Quasar มี ไฟล์ Lay6 ซึ่งเป็น PCB Layout  มาแล้ว แต่ใช้ไม่เป็น ลองหา หา Protel มาเขียน PCB เพราะเคยใช้นานแล้ว  แต่ยาก เลยหาข้อมูลพบกว่า ไฟล์ Lay6  ใช้โปรแกรม Sprint Layout 6.0 (สร้างโดย Abacom Engineer เยอรมัน)  ในการ เปิดไฟล์ PCB มาแก้  โปรแกรม Sprint Layout เท่าที่ดูหลายเวป นิยมในแุถวยุโรปตะวันออกมาก ใช้ง่าย crack ได้ สามารถแปลงเป็น Gerber เพื่อส่งไปทำ PCBได้เลย และแก้ไขเล็กน้อย ได้เป็น PCB ไฟล์ ที่ต้องการ เดือน กรกฎาคม 2558 สั่งทำ PCB Online จาก PCBway China (ตอนนั้นอยู่ Hong kong)  เพราะติดต่อบ้านเรา หลายที่ทำไม่ได้ (ซีเกท เซอร์กิต)  ที่ทำได้ก็แพงมาก หลายพัน มีขั้นต่ำ ได้มา  5 แผ่น 24 US 8 ร้อยกว่าบาท ค่าเงิน 1 us =35.6 บาท (2015-2558) รอประมาณ ครึ่งเดือนได้ของ ดีใจมากๆ เป็นประสบการณ์การสั่ง PCB Online ครั้งแรกๆ เมื่อของมาเกือบครบ แล้วก็เริ่มประกอบ และเพิ่งพบว่า นรกที่แท้ทรู เพิ่งเริ่มนั่นเอง เริ่มจากนรก ขุมแรก การบัดกรี STM31F100C8 เป็น SMD แบบ LQFP48 ขาเล็กมาก ขนาด 0.22 มม. ระยะห่างระหว่างขา0.28 มม. แรกๆ ใช้หัวแร้งธรรมดา หัวใหญ่ ปาดไม่ดี ตะกั่วติดขาเป็นทาง ต้องใช้ แถบทองแดงไว้ดูดตะกั่ว  ลองใช้ตะกั่วเหลวร่วมกับที่เป่าลมร้อน ที่ซื้อมานานแล้ว แต่เป่าแล้วอุปกรณ์พัง เลยไม่ค่อยได้ใช้ อาจเพร่าะศึกษามาไม่ดี แต่มันก็มีประโยชน์ เพราะมี หัวแร้งปรับอุณหภูมิ มาด้วย ปลายแหลมเปี๊ยบ (ในตอนนั้น) และได้นำมาใช้ในเวลาต่อมา ไว้บัดกรี รวมทั้งสั่งหัวตะกั่วบัดกรีมาใหม่ แต่ดันใส่กับหัวแร้งเดิมไม่ได้ 🙁   รวมทั้งมีส่วนในความสำเร็จขั้นหนึ่งในโปรเจคแก้ตัวในปัจจุบัน (ผลงาน 2 PCB QuasarARM 0.5 วงจรทำงาน เสีย 1 PCB รอซ่อม ขา CPU) ที่จริงผมก็ซื้อ หัวแร้งมาใหม่นะ แต่ขาดันไม่ตรงกัน ต้องรอโมดิฟาย พอจะใช้ก็หาไม่เจอ เดีํยวเจอแล้วจะเอามาใช้ สิ่งที่ผมขาดไปคือแว่นขยาย ซึ่งเหมาะแก่การบัดกรีอุปกรณ์เล็กๆ ในเวลาต่อมาผมก็หาซื้อได้่ หลังจากบัดกรี STM32 ไป สาม PCB ก็ลองหาอันที่ เหมาะสมที่คิดว่ารอด และหวังว่า อันที่เหลือ จะเป่าออก แล้วบัดกรีใหม่ในเวลาอันเหมาะสม ซึ่งเวลานั้นยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยจนถึงปัจจุบัน ต่อมาก็บัดกรี SMD Capacitor และ Resistor ที่ได้มาตาม ยถากรรม ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ค่าตรงมั่ง ใกล้เคียงบ้าง ลุยบัดกรีจนเกือบครบ หลังจากลุยดึกมาเป็นสัปดาห์ก็บัดกรีเสร็จ ก็ได้เวลา ทดลองจ่ายไฟ แล้ว พบว่าไม่ทำงาน ก็พยายามวัดโน้นนี่นั่น ไปเรื่อย  นำไปสู่การบัดกรีอันที่ 2 ทดลองเชื่อมระบบ ST Link V2 กับวงจรแต่ไม่สำเร็จ ข้อสันนิษฐานในตอนนั้นคือ ตัว Microcontroller STM32F100 อาจถูกความร้อนจากที่เป่าลมร้อนจนเสียหาย  อาจต้องเปลี่ยน Microcontroller ทิ้ง ในเวลาถัดมา การมาถึงของสิ่งใหม่ ก็ยุติทุกอย่าง นั่นคือการมาถึงของ DJI Phantom 2 Drone ทำให้โครงการเครื่องตรวจโลหะ หยุดลงชั่วคราว มีนาคม 2559 สั่งหัวเป่าลมร้อนมาเพิ่ม เพื่อจะถอด STM32 อุปกรณ์ออก สั่ง GM328 ตัววัด Transistor ว่าเป็นแบบ MOS,NPN,PNP และวัดค่า L C R มาในตัว แต่ก็ไม่ได้ทำต่อ และหยุดโครงการไว้เพียงเท่านี้ เก็บเรื่องนี้ เป็นแผลลึกๆ ในใจในการทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ได้เรื่องครั้งหนึ่ง และเป็นเรื่องให้ภรรเมียยกมาพูดในแต่ละครั้ง พูดทีไรแทงใจทุกที  รอวันนานไปเรื่องนี้คงเงียบลง  นานๆ จะยกอุปกรณ์มาดูสักครั้งเป็นที่ระลึก เมื่อต้นปี 2563 นี้ ภรรยาได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดขึ้นอีกครั้ง ผมรู้สึกว่า เรื่องนี้ยังไม่จบ และจะต้อง ทำไมมันใช้ได้  ดังนั้นผมจึงค้นหาข้อมูลใหม่อีกครั้ง  พบหลายปีมานี้ QuasarARM พัฒนามาเรื่อยๆ ทั้งอุปกรณ์และ firmware มีขายทั้งอุปกรณ์สำเร็จ (ราคาก็แพงเหมือนเดิม) มีข้อข้อมูลที่ เป็นสากลมากขึ้นและละเอียดมากขึ้น  และเราสามารถซื้อชิ้นส่วนอุปกรณ์ออนไลน์จาก aliexpress และที่อื่นๆ ได้  ในราคาจับต้องได้ เอาน่ามาลองกันอีกซักตั้ง สู้โว้ย

Outlook PDF Preview Handler Error

แนวทาง

To manually enable or disable the PDF File Preview integration within Microsoft Outlook, please follow the instructions below:

Within Microsoft Outlook 2010, go to “File” menu and click “Options”.
Select the “Trust Center” link.
Click on the “Trust Center Settings…” button.
Select the “Attachment Handling” menu.
Click on the “Attachment and Document Previewers…” button.
Locate the “zeon PDF PreviewHandler” option from the “File Previewing Options” list.
To enable the PDF File Preview option, place a check in the “zeon PDF PreviewHandler” checkbox.
Note: To disable the PDF File Preview option, remove the check from the “zeon PDF PreviewHandler” checkbox.
Click “OK” to apply the changes.
Note: The “zeon PDF PreviewHandler” File Previewing Option may also be listed as “Nuance PDF PreviewHandler

 

แนวทาง 2

go to Control Panel in windows, click “Default Programs”
in window that opens click associate a file type (…)
browse for .pdf and click “Change Program”
in window that opens select Adobe acrobat/Reader, click OK, close control panel window
now open Adobe Reader (from start menu/shortcut), press crtl+O (open file) and navigate to any folder containing PDF files
you should see windows generating thumbnails (change the folder view if needed) in the “Open File” dialog

การใช้ดิจิตอลมิเตอร์วัดมอสเฟท

ตั้งย่าน วัดสารกึ่งตัวนำ หรือเลือกไปที่ รูป สัญลักษณ์ ไดโอด
1.วัดขา G-D นะครับ  แล้วให้สลับขั่วมิเตอร์แล้ววัดอีกรอบ  ต้องไม่แสดงตัวเลข
2.วัดขา G-S นะครับ  แล้วให้สลับขั่วมิเตอร์แล้ววัดอีกรอบ  ต้องไม่แสดงตัวเลข
3.วัดขา D-S นะครับ  แล้วให้สลับขั่วมิเตอร์แล้ววัดอีกรอบ  ต้องไม่แสดงตัวเลข1ครั้งและแสดงตัวเลข ค่าประมาณ 0.2-0.6  = 1ครั้งครับ

 

ที่มา:http://www.un-sound.com/board/index.php?topic=7045.0

USB Scanner to COM Port

Symbol Barcode Scanner

Link

https://www.zebra.com/us/en/support-downloads/knowledge-articles/evm/emulating-a-com-serial-port-over-usb-using-cdc-driver.html

symbol CDC Driver

https://www.zebra.com/us/en/support-downloads/software/drivers/usb-cdc-driver.html

Support Product

DS2200 Series
DS3508 Series of Rugged 1D 2D Imager Scanners
DS3608-DP DS3678-DP Ultra Rugged Scanners
DS3608-ER DS3678-ER Ultra Rugged Scanners
DS3608-HD DS3678-HD Ultra Rugged Scanners
DS3608-HP DS3678-HP Ultra Rugged Scanners
DS3608-SR DS3678-SR Ultra Rugged Scanners
DS4208
DS457 Series
DS4800 Series
DS6607 Handheld Scanner
DS6707
DS6707-DS6708
DS6708
DS6878-SR Cordless Bluetooth 2D Imager
DS8100 Series
DS9208 Omnidirectional Hands-Free Presentation Imager
LI2208
LI3608-ER
LI3608-SR
LI3678-ER
LI3678-SR
LI36X8-SR
LI4278
LS3578-FZ Rugged Bar Code Scanner
LS9203i General Purpose Bar Code Scanner
LS9208i General Purpose Bar Code Scanner
Platform SDK MT2000
Symbol DS3578 Series
Symbol DS4308
Symbol DS7708
Symbol DS9808 Hybrid Presentation Imager
Symbol LS2208 General Purpose Bar Code Scanner
Symbol LS4208 General Purpose Bar Code Scanner
Symbol LS4278 Cordless General Purpose Bar Code Scanner
Symbol LS7708 General Purpose Presentation Scanner
Symbol LS7808 General Purpose Bar Code Scanner
Symbol LS9203 General Purpose Bar Code Scanner
Symbol LS9208 General Purpose Bar Code Scanner

จันทรคราสชาดก จิตรกรรมฝาผนัง แห่ง วัดหนองบัว ท่าวังผา น่าน

ผมได้มีโอกาสมาวัดหนองบัวครั้งแรก ประมาณปี 53 ครั้งแรกที่ได้ชมจิตรกรรมฝาผนัง ที่วัดหนองบัว ก็เข้าใจว่า เป็นชาดก พุทธประวัติ ตามแบบวัดทั่วไป โชคดีเจอผู้รู้มาบอกว่า ภาพส่วนใหญ่เป็นเรื่อง จันทรคราส ชาดก บางส่วนเป็นพุทธประวัติ ได้อธิบายเรื่องราวภาพต่างๆ ที่ผนังอุโบสถ ไว้พอสังเขป ผมได้ถ่ายภาพไว้ แล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ต ก่อนสิ้นปี 2555 ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ได้พบกับนักท่องเทียว มาถ่ายภาพ ส่วนใหญ่ก็เดาว่าเป็นพุทธประวัติ เหมือนผมที่มาในครั้งแรก เมื่อไปถาม ลุงคนเฝ้าก็บอกว่าเป็น จันทรคราสชาดก เรื่องราวเก่าแก่ แต่ไม่ได้อธิบายอะไร เพิ่มเติม ทำให้ความเข้าใจไม่กระจ่าง ดังนั้นผม จึงคิดรวมเรื่องราวและอธิบายภาพที่อุโบสถ เผื่อใครที่เดินทางไปที่วัด ได้มีข้อมูลประกอบการถ่ายภาพ และชมภาพได้อย่างเข้าใจดียิ่งขึ้น หากข้อมูลส่วนใดผิดก็แจ้งให้ทราบด้วย เพื่อให้แก้ไขได้ถูกต้องยิ่งขึ้น

สำหรับ ประวัติของวัดและผู้วาดสามารถหาได้ทั่วไปตามเวปต่างๆ อยู่

ณ เมืองจำปา ซึ่งมีพญาปันธุเป็นเจ้าเมือง มีครอบครัวของสามีภรรยาคู่หนึ่งอาชีพทำไร่ทำสวน ฐานะยากจนมาก ต่อมาภรรยาได้ตั้งท้องและคลอดบุตรชายคนแรกเป็นผู้ชายได้เกิดสุริยุปราคาขึ้น บิดาจึงตั้งชื่อให้ว่า“สุริยคราส” บิดามารดาได้เลี้ยงดูบุตรชายด้วยความรักใคร่เอาใจใส่ จนบุตรชายคนแรกมีอายุได้ ๒ ปี มารดาจึงตั้งท้องบุตรคนที่ ๒ และคลอดออกมา เป็นผู้ชาย วันที่นางคลอดเกิดจันทรุปราคา จึงตั้งชื่อว่า “จันทรคราส” เด็กทั้งสองได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากบิดามารดา จนเติบใหญ่ และเป็นเด็กที่มีความแข็งแกร่ง

วันหนึ่งสองพี่น้องไปเก็บปูที่ทุ่งนามา ๔ ตัว แล้วนำมาเผากิน สุริยคราสได้แบ่งไว้ให้พ่อกับแม่ ๒ ตัว ตัวเองกับน้อง กินคนละตัว แต่จันทรคราสกินไม่อิ่มอ้อนวอนขอพี่อีกจนหมด พ่อกับแม่กลับมาเห็นกระดองปูเรี่ยราดจึงถามลูก ๆ พอรู้เรื่อง ด้วยความหิวพ่อจึงใช้ไม้ตีจันทรคราส แต่สุริยคราสสงสารน้องจึงพาน้องหนีออกจากบ้าน และพลัดหลงอยู่ในป่า

สองพี่น้องอยู่ในป่าหลายวัน ได้เห็นงูกับพังพอนสู้กัน เมื่องูตายพังพอนก็ไปคาบเปลือกไม้ชนิดหนึ่ง โดยเคี้ยวก่อนจะใส่ในปากงูทำให้งูฟื้นขึ้นมาแล้วสู้กันต่อ ครั้นพังพอนตายงูก็เคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปากพังพอนบ้าง พอพังพอนฟื้นสัตว์ทั้งสองก็หายเข้าไปในป่า สองพี่น้องจึงเก็บเปลือกไม้ไว้และพากันเดินทางต่อไป

เด็กทั้งสองเดินทางมาพบพระฤๅษีกำลังนั่งวิปัสสนาอยู่ใต้ต้นไม้ ขณะนั้นมีอีกาตัวหนึ่งอยู่บนต้นไม้และถ่ายอุจจาระตรงหัวพระฤๅษี พระฤๅษีจึงสาปให้อีกาตาย เด็กทั้งสองอยากทดลองเปลือกไม้นั้น สุริยคราสจึงเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปากอีกา อีกาฟื้นขึ้นมาและสำนึกในบุญคุณของเด็กทั้งสอง จึงอาสาหาอาหารและผลไม้ให้กินทุกวัน

เมื่ออาหารและผลไม้หมดป่า อีกาจึงนำเด็กทั้งสองไปทิ้งไว้เมืองยักษ์ เพื่อให้เป็นอาหารของยักษ์ต่อไป ส่วนอีกาขโมยเนื้อจากเมืองยักษ์ไป ยักษ์จึงจับอีกากินเป็นอาหาร

สองพี่น้องถูกหัวหน้ายักษ์จับตัวไปขังไว้ เพื่อเป็นอาหารในการจัดงานศพเมียของตน โดยขังไว้กับศพเมียยักษ์ เด็กทั้งสองจึงช่วยเหลือด้วยการเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปากเมียของยักษ์ เมื่อเมียยักษ์ฟื้นขึ้นมา ยักษ์จึงเลิกจัดงาน ทำให้ยักษ์ตนอื่น ๆ ไม่พอใจ จึงเกิดแย่งชิงเด็กทั้งสอง เมียของยักษ์จึงพาสองพี่น้องหลบหนีไปที่เมืองกาสี

ณ เมืองกาสี (กาสิกนคร) พญาสุคะโตผู้ครองนคร มีธิดาชื่อสุจาติงสา (สุทธชาติดึงสา) ได้สิ้นพระชนม์เพราะถูกงูพิษกัด พญาสุคะโตจึงประกาศว่าถ้าใคร สามารถช่วยชีวิตพระธิดาได้ จะให้รางวัล ส่วนสุริยคราสและจันทรคราสเมื่อถึงเมืองกาสี มีเศรษฐีได้รับเลี้ยงไว้ ครั้นทราบข่าว สุริยคราสอาสาไปช่วยชีวิตด้วยเปลือกไม้ พญาสุคะโตจึงยกพระธิดาให้กับสุริยคราส พร้อมทั้งให้ครองเมืองกาสีต่อจากพระองค์

( ไม่แน่ใจ:พระธิดาสุจาติงสา ของพญาสุคะโต เมืองกาสีถูกงูพิษกัด)

จันทรคราสได้อยู่กับเศรษฐีต่อไป วันหนึ่งจันทรคราสทราบข่าวว่าลูกเจ้าของเรือที่จะเดินทางไปค้าขายกับเมืองอินตะปะถะ(เมืองอินทปัตนคร) เสียชีวิตเพราะถูกเสือกัดจึงได้นำเปลือกไม้ไปช่วยและฟื้นขึ้นมา เจ้าของเรือจึงยกเรือให้จันทรคราส และจันทรคราสก็ออกเดินทางไปยังเมืองอินตะปะถะ

เมืองอินตะปะถะนั้นพญาพรหมจักร(พระเจ้าพรหมจักรวรรดิ) เป็นผู้ครอง มีธิดาที่เพิ่งประสูติชื่อเตวธิสังกา (พระธิดาเทวธีสังคา) โหรได้ทำนายว่าเมื่อนางอายุถึง ๑๖ปี จะถูกเสือกัดตาย พญาพรหมจักรจึงสั่งให้ดูแลพระธิดาไม่ให้ออกจากเมือง จนกระทั่งนางอายุ ๑๖  ปี ได้เห็นเขี้ยวเสือจึงหยิบมาเล่น แล้วถูกเขี้ยวเสือทิ่มที่เท้าเกิดอักเสบจนเสียชีวิต พญาพรหมจักรประกาศให้รางวัลผู้ที่ช่วยชีวิตธิดาของตน ขณะนั้นจันทรคราสมาถึงเมืองอินตะปะถะ ทราบข่าวจึงอาสาเข้าช่วยเหลือนางด้วยเปลือกไม้จนกระทั่งฟื้น ครั้นนางเห็นจันทรคราสก็เกิดความรักขึ้น พญาพรหมจักรจึงได้จัดพิธีอภิเษกสมรสและแต่งตั้งให้จันทรคราสเป็นอุปราช

(จันทรคราสช่วยแก้ไขให้ เตวธิสังกา ธิดาของพญาพรหมจักรแห่งเมืองอินตะปะถะ ฟื้นคืนชีพ จากการที่ถูกเขี้ยวเสื้อทิ่มอักเสบ บางแห่งกล่าวไว้ว่า  นางเตวธิสังกา หรือ นางเทวธิสังกาถูกมีดเล็กด้ามเขี้ยวเสือ เกิดบาดแผลเล็กน้อยแต่อาการกำเริบขึ้นเสวยทุกขเวทนา 3 ปี ก็เสียชีวิต ที่มา:cm77.com)

เมื่อพญาพรหมจักรสวรรคต ขุนนางจึงเชิญให้จันทรคราสปกครองเมืองอินตะปะถะสืบต่อมา

หนึ่งปีผ่านไปจันทรคราส คิดถึงสุริยคราสผู้เป็นพี่ชาย จึงให้ขุนนางเตรียมเรือและออกเดินทางไปเมืองกาสีพร้อมนางเตวธิสังกา

ระหว่างการเดินทางเกิดพายุ เรือสำเภาเกิดล่มกลางทะเล ทำให้จันทรคราสและนางเตวธิสังกาพลัดพรากจากกัน

(เรือสำเภาที่จันทรคราสและนางเตวธิสังกาโดยสารล่มกลางทะเล)

หลังจากพลัดพรากจากจันทรคราสแล้ว นางเตวธิสังการ้องไห้คร่ำครวญเดินไปพบบ้านหลังหนึ่งในเมืองอนุปะมะ (เมืองอนุกรม) ยายปริสุทธิ (ยายปาริสุทธี)เจ้าของบ้านจึงให้นางอาศัยอยู่ด้วย ข่าวทราบถึงเจ้าผู้ครองนครคือ พญาสุตัสสะนะจักร(สุทัสสนจักร) เพราะความงามของนาง พระองค์จึงให้ขุนนางไปขอมาเป็นมเหสี ยายปริสุทธิทราบข่าวจึงปฏิเสธและนำนางเตวธิสังกาไปบวชชี ณ สำนักแม่ชีในเมืองอนุปะมะ

พญาสุตัสสะนะจักรเมื่อผิดหวังจากนางเตวธิสังกา ได้ให้ขุนนางไปขอพระธิดาของพญาธัมมะขัติผู้ครองเมืองอนุราธะ ชื่อนางพรหมจารี พญาธัมมะขัติจึงยกพระธิดาให้ เมื่ออยู่กินกันมาไม่นานได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันบ่อย ๆเพราะพญาสุตัสสะนะจักร เป็นผู้ที่มักมากในกามคุณ หวังจะได้นางเตวธิสังกา มาเป็นอนุภรรยาอีกคน ด้วยความโกรธพญาสุตัสสะนะจักรสั่งให้ขุนนาง นำนางพรหมจารีใส่แพปล่อยลอยน้ำไป

จันทรคราส เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็เดินทางเข้าไปในป่า เห็นครุฑกำลังคาบงูอยู่ (บางตำราว่า พญาครุฑ กับ นาค) ครุฑเห็นคนเดินมาจึงปล่อยงูตกลงมา จันทรคราส จึงรีบเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ลงไปในปากงู พองูฟื้นเลื้อยหายเข้าไปในป่า แล้วแปลงกายเป็นเด็กน้อย จันทรคราสเดินเข้าไปหาเด็กน้อย เด็กได้บอกว่าเขาคืองูตัวที่ท่านได้ช่วยชีวิตเอาไว้ และขอตอบแทนบุญคุณท่านโดยหากมีความต้องการสิ่งใดจะนำมาให้ จันทรคราส บอกว่าไม่มีความประสงค์ สิ่งใด แต่อยากจะพบภรรยาซึ่งพลัดพรากจากกันเมื่อตอนสำเภาแตก เด็กน้อยจึงมอบแก้ววิเศษให้แก่ จันทรคราส จันทรคราสอมลูกแก้วปรากฏว่าสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นดิน รวมทั้งบิดามารดาที่เมืองจำปา พี่ชายที่เมืองกาสีและนางเตวธิสังกำลังบวชเป็นชีที่เมืองอนุปะมะ จากนั้นเด็กน้อยได้หายตัวไป

(จันทรคราสเห็นครุฑจับงูบินผ่านมา จึงทำให้ครุฑตกใจ ปล่อยงูตกลงมาตาย  จันทรคราสเคี้ยวเปลือกไม้ช่วยชีวิตงู งูกลายเป็นด็กน้อย มอบแก้ววิเศษแก่จันทรคราส)

(::มีคนบอกว่า เป็นครุฑแปลกแตกต่างจากครุฑในจิตรกรรมแบบไทยๆ::)

จันทรคราสเดินทางต่อไปพบกับพญาทอน (บางตำราว่า วิทยาธร) นอนจมกองเลือดเนื่องจากถูกทำร้าย แต่เขาไม่สามารถช่วยพญาทอนได้ เพราะเปลือกไม้ที่นำติดตัวมาหมดแล้ว พญาทอนขอให้ช่วยจัดการเผาศพหลังจากที่ตายและมอบดาบวิเศษให้ป้องกันตัว เวลาหิวให้เอาปลายดาบแช่น้ำผึ้งกินแทนข้าวได้ พร้อมกับร้องเท้าวิเศษอีกคู่หนึ่ง เวลาสวมใส่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เมื่อสั่งลาเสร็จ พญาทอนก็สิ้นลมหายใจ หลังจากจัดศพให้เป็นที่เรียบร้อย จึงสวมรองเท้าวิเศษและสะพายดาบวิเศษเหาะไปยัง เมืองสังกัสสะนคร

 

(รูปกลางบน:พญาทอนที่ถูกทำร้ายสั่งเสียจันทรคราสก่อนตายพร้อมมอบรองเท้าวิเศษและดาบวิเศษ  รูปกลางล่าง:จันทรคราสเผาศพพญาทอนตามคำร้องขอ รูปขวา:จันทรคราสเหาะด้วยรองเท้าวิเศษ)

จันทรคราสเข้าไปพักผ่อนอยู่ในถ้ำ ขณะนั้นมีกระแสน้ำพัดเอาหญิงสาวสามคนลอยมาติดอยู่ที่หน้าถ้ำ

(จันทรคราสพักในถ้ำ พบลูกสาวเศรษฐีสามคนลอยมาติดหน้าถ้ำ)

ภายหลังทราบว่าเป็นลูกสาวของเศรษฐีเมืองสังกัสสะนคร ชื่อปทุมมา ทิพย์โสดา และสุกัญทา (ประทุมบุปผา ทิพยโสตเทวี และสุคนธเกศี) ฝ่ายเศรษฐีทราบข่าวว่าลูกสาวหายได้ระดมคนค้นหาแต่ไม่พบ จึงไปหาโหรให้ทำนาย และโหรบอกว่านางทั้งสามคนได้หลงทางไปไกล อีกประมาณหนึ่งเดือนจะมีชายหนุ่มนำมาส่งถึงบ้าน

ต่อมาจันทรคราสได้พานางทั้งสามเดินทางเข้าป่า เพื่อที่จะพานางไปส่งถึงบ้านจนถึงเขตเมืองสังกัสสะนคร ผ่านโจรป่า ผ่านยักษ์ จนมาพบพรานป่า กำลังออกล่าสัตว์จึงได้สอบถามเกี่ยวกับเส้นทางที่จะไปบ้านของสามสาว

 

(ทางขวา: จันทรคราสสอบถามทางกับพรานป่า เพื่อนำลูกสาวเศรษฐี ปทุมมา ทิพย์โสดา และสุกัญทา ไปส่ง ทางซ้าย:จันทรคราสพานางทั้งสาม มาถึงบ้านศรษฐี)

ทั้งสี่คนเดินทางต่ออีกประมาณ 7 วัน จึงถึงบ้านของเศรษฐี สองเศรษฐีสามีภรรยาดีใจมากที่เห็นลูกสาวอีกครั้ง จึงได้ยกลูกสาวทั้งสามให้เป็นเมียของจันทรคราส

จันทรคราสคิดถึงนางเตวธิสังกา จึงสวมรองเท้าและอมลูกแก้ววิเศษ สะพายดาบเหาะไปถึงแม่น้ำจิระวดี ได้พักอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ เห็นผู้หญิงนั่งอยู่บนแพและร้องไห้ จันทรคราสลงไปดึงแพเข้าฝั่งและถามได้ความว่า ชื่อนางพรหมจารีถูกพญาสุตัสสะนะ (สุทัสสนจักร,สทัศนจักร)พระสวามีเอาใส่แพลอยน้ำ นางได้ขอให้พาไปส่งพ่อแม่ที่เมืองอนุธาระ(เมืองอนุราช) ด้วยความสงสาร จันทรคราสชวนให้นางพักค้างคืนที่นั่นก่อน เมื่อนางหลับสนิทจึงอุ้มเหาะไปยังเมืองอนุธาระ ขณะที่เหาะไปนั้นนางได้ฝันไปว่ามีเทพบุตรเอาแก้วให้อม สามารถมองเห็น เมืองอนุธาระ

นางสุละโยธา (นางสุริยโยธา) แห่งเมืองปัญจา เป็นแม่เลี้ยงนางพรหมจารี ได้ฟังเรื่องต่าง ๆ นางโกรธแค้นมากที่ทำให้นางพรหมจารีต้องตกระกำลำบาก จันทรคราสได้เรียนวิชาอาคมจากนางสุละโยธา เมื่อส่งนางพรหมจารีถึงวังของพญาธัมมะขัติ(พญาธรรมขันตี)ผู้เป็นบิดาแล้ว พญากาวินตะ (พญากาวิน)ผู้ครองเมืองไกยะราชได้ส่งสาสน์และเครื่องราชบรรณาการมาสู่ขอนางจากพญาธัมมะขัติ แต่นางพรหมจารีปฏิเสธ เพราะยังเป็นหนี้บุญคุณจันทรคราสที่เคยช่วยชีวิต ในที่สุดพญาธัมมะขัติจึงได้ยกนางให้จันทรคราส

ต่อมาขุนนางได้มาอัญเชิญนางพรหมจารีไปเป็นมเหสีของพญากาวินตะ แต่นางปฏิเสธเช่นเคยและได้บอกแก่ขุนนางไปว่า แม้พญากาวินตะจะตักน้ำมาล้างเท้าให้ทุกวันหรือเอาไปบูชาดุจพระเจ้า นางก็ไม่ยอมทั้งสิ้นพวกขุนนางจึงนำความไปกราบทูล พญากาวินตะโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง จึงยกทัพไปถึงเมืองอนุธาระ นางพรหมจารีไม่หวั่นวิตก ได้เตรียมทัพซึ่งเป็นผู้หญิงล้วน ๆ ต่อสู้กับพญากาวินตะโดยใช้อาคมต่อสู้

 

(ด้านซ้าย กองทัพสตรีล้วนของนางพรหมจารี ต่อสู้กับกองทัพพญากาวินตะ โดยนางพรหมจารีควงดาบสองมือเหยียบหัวช้างเข้าสู้ต่อกรกับพญากาวินตะบนหลังช้าง เป็นภาพที่ผมประทับใจมาก )

พญากาวินตะกระโดดขึ้นนั่งคอช้างคู่บารมีสู้รบกันบนหลังช้าง ในที่สุดต่างฝ่ายต่างหมดแรง ต่อมาพญากาวินตะถูกขุนนางจับตัวไว้ได้และ ทรมานด้วยเหล็กเผาไฟแดงฉานทาบฝ่าพระบาทจนสุกไหม้จึงยอมแพ้ (บางตำราว่า พญากวินตะใช้เวทย์มนต์ซ่อนกองทัพมาจับนางพรหมจารีแต่ถูกจับได้  โดนมัดเหมือนผูกปู)

จันทรคราสคิดถึงนางเตวธิสังกาและขออนุญาตนางพรหมจารีกับพญาธัมมะขัติไปตามหา นางเตวธิสังกา ได้ไปอาศัยกับยายปริสุทธิก่อน วันหนึ่งนางเตวธิสังกาได้ออกจากสำนักมาเยี่ยมยายปริสุทธิ พอทราบเรื่องราวที่ยายเล่าให้ฟัง จึงเชื่อว่าชายคนนั้นคือจันทรคราสพระสวามีของตนเองแน่ ๆ จึงขอลาสิกขากับอาจารย์ด้วย ความรักอันดูดดื่มในอดีต นางถึงกับวิ่งเข้าไปสวมกอดร้องไห้ละล่ำละลัก ยายปริสุทธิจึงผูกข้อมือให้ทั้งสองคน

พญาสุตัสสะนะจักรรู้ข่าวการลาสิกขาของนางเตวธิสังกา พระองค์ทรงพิโรธเพราะเคยสัญญากับยายปริสุทธิแล้วหากนางลาสิกขาเมื่อใดให้บอกทันที จะมาสู่ขอเป็นมเหสี ยายปริสุทธิผิดสัญญาจึงถูกปรับเป็นช้างร้อยเชือก วัวร้อยตัว ม้าร้อยตัว เงินและทองคำอีกต่างหาก จันทรคราสจึงเนรมิตช้าง ม้า วัว เงินทองจนครบจำนวนแล้วสั่งให้เสนาอมาตย์มารับเอาไป ขณะที่เสนาอมาตย์กำลังเปิดคอกสัตว์นั้น สัตว์เหล่านั้นได้บินหนีไปหมด คงเหลือเฉพาะเงินกับทองเท่านั้น

(เมื่อเสนาอมาตย์ของ พญาสุตัสสะนะจักร เปิดกรง เหล่าช้างร้อยตัว วัวร้อยตัว ม้าห้าร้อยตัว ที่จันทรคราสเนรมิตมา ก็บินไปสิ้น ::สุดยอดจินตนาการเลยครับ ยูนิคอนก็ยูนิคอนเถอะ เจอช้าง กับวัวบินก็จ๋อยเลย::)

พญาสุตัสสะนะจักร รู้ข่าวว่าพญาพันธุ (พระยาพุทธโคษา) เจ้าเมืองกันทะรัฐ (เมืองคันธาระ) มีธิดาสวยชื่อ นางอุตตะมะธานี(อุตมธานี) จึงให้ขุนนางไปสู่ขอเป็นมเหสี ขณะนั้นกองทัพของนางพรหมจารีบุกมาถึงเมืองอนุปะมะ (เมืองอนุกรม) พอดี

(กองทัพนางพรหมจารีเดินทางไปทำสงครามกับพญาสุตัสสะนะจักร แห่งเมืองอนุปะมะ)

นางได้ส่งสาสน์ท้าให้พญาสุตัสสะนะจักรมาทำสงคราม เมื่อกองทัพบุกประชิดเมืองนางจึงสั่งให้ยิงปืนถล่มกำแพงเมืองจนพังทลาย กระสุนปืนถูกวังของพญาสุตัสสะนะจักร ทหารจับตัวพญาสุตัสสะนะจักรได้แล้วนำไปประหารชีวิต

เมื่อเสร็จสิ้นศึกสงครามนางพรหมจารีได้ยกเมืองให้จันทรคราสกับ นางเตวธิสังกาปกครองต่อไป

ฝ่ายขุนนางทั้งหลายที่ไปสู่ขอนางอุตตะมะธานี รู้ข่าวพญาสุตัสสะนะจักรถูกประหารชีวิต จึงยกนางอุตตะมะธานี (นางอุดมธานี) ให้เป็นมเหสีของจันทรคราสอีกคนหนึ่ง ต่อมานางได้ตั้งครรภ์จันทรคราสดีใจมากที่จะได้ทายาทไว้สืบสกุล จึงได้มอบหมายให้นางเตวธิสังกาและขุนนางคอยปฏิบัติรับใช้เอาใจใส่เป็นพิเศษ ต่อมาเมืองกันทะรัฐได้เกิดศึกสงคราม จันทรคราสจึงอาสาไปช่วยรบและได้มอบให้ขุนนางช่วยดูแลเมืองอนุปะมะแทน

หลังจากเสร็จสิ้นสงครามซึ่งใช้เวลาถึง ๓ ปี จันทรคราสก็กลับถึงเมืองอนุปะมะทราบว่า นางอุตตะมะธานีคลอดบุตรเป็นชาย จันทรคราสปลื้มใจมาก และให้โหรทำนายลักษณะพร้อมทั้งตั้งชื่อให้ว่า“ทุกขัติยะวงศา” เมื่อเจ้าชายเจริญวัย จันทรคราสได้มอบเมืองอนุปะมะให้แก่เจ้าชายและนางอุตตะมะธานี ปกครองต่อไปส่วนจันทรคราสกับนางเตวธิสังกา กลับไปครองเมืองอินตะปะถะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ นางเตวธิสังกาด้วยความสุข.

ที่มา:ส่วนหนึ่งจาก หนังสืออ่านประกอบ สื่อสารภาษา ท่าวังผาน่าอยู่ คู่เมืองน่าน  จิตรกรรมสูงค่าฝาผนังวัดหนองบัว เรื่อง….จันทรคราสชาดก
โดย : นัทธมน คำครุฑ

get WAN IP arduino

void GetExternalIP()
{
WiFiClient client;
if (!client.connect(“api.ipify.org”, 80)) {
Serial.println(“Failed to connect with ‘api.ipify.org’ !”);
}
else {
int timeout = millis() + 5000;
client.print(“GET /?format=json HTTP/1.1\r\nHost: api.ipify.org\r\n\r\n”);
while (client.available() == 0) {
if (timeout – millis() < 0) {
Serial.println(“>>> Client Timeout !”);
client.stop();
return;
}
}
int size;
while ((size = client.available()) > 0) {
uint8_t* msg = (uint8_t*)malloc(size);
size = client.read(msg, size);
Serial.write(msg, size);
free(msg);
}
}
}

credit:martinayotte

source:https://www.esp8266.com/viewtopic.php?f=6&t=12782